" ต้อกระจก " อาการ การรักษา และปัจจัยเสี่ยง
............................................................
เป็นภาวะที่แก้วตาภายในลูกตาเสื่อมลง จนมีลักษณะขุ่นขาว จากปกติที่มีลักษณะโปร่งใสเหมือนกระจก เมื่อแก้วตาขุ่นขาวก็จะมีลักษณะทึบแสง
ทำให้บดบังแสงที่จะผ่านเข้าไปในตา แสงจึงส่งผ่านเข้าสู่ลูกตาไปรวมตัวที่จอประสาทตาหรือเรตินาได้ไม่เต็มที่
ทำให้เกิดอาการสายตาฝ้าฟางหรือสายตามัวคล้ายหมอกบัง
แก้วตามีหน้าที่ร่วมกับกระจกตา ในการหักเหแสงจากวัตถุให้ตกโฟกัสที่จอประสาทตา (Retina) จึงทำให้เกิดการมองเห็น อีกทั้งแก้วตายังสามารถเปลี่ยน
กำลังการหักเหได้ด้วยตัวเอง เพื่อให้สามารถโฟกัสภาพในระยะต่าง ๆ ได้ชัดขึ้นทำให้มองเห็นได้ชัดทั้งในระยะไกลและระยะใกล้
อีกทั้งแก้วตายังสามารถเปลี่ยนกำลังการหักเหได้ด้วยตัวเอง โดยอยู่ตรงใจกลางของดวงตาเพื่อไม่ให้ได้รับอันตรายได้โดยง่าย
ด้วยความสำคัญนี้เอง ธรรมชาติจึงสร้างแก้วตาให้มาอยู่ในที่ที่ปลอดภัย
“ต้อกระจก” เป็นสาเหตุอันดับหนึ่งที่ทำให้ตาบอด… มาเช็คลิสต์ 4 สัญญาณเตือน! ว่าคุณเสี่ยงเป็นโรคต้อกระจกหรือไม่ ? …
รู้เท่าทันรีบป้องกันก่อนสาย ควรตรวจสุขภาพตาปีละ 1 ครั้ง

อาการแบบไหนควรมาตรวจสุขภาพตา
...............................
- มองเห็นภาพซ้อน
- มองเห็นภาพไม่ชัด
- มองเห็นภาพมัวในที่ๆ มีแสงสว่างจ้า
- สายตาเปลี่ยนบ่อยไปวัดแว่นทีไรก็ไม่ชัดซักที
กลุ่มเสี่ยงเกิดภาวะต้อหินพร้อมภาวะต้อกระจก
.........................................
- อายุมากกว่า 50 ปี
- ผู้ที่ใช้ยากลุ่มยาสเดียรอยด์ (Steriod)
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวต่างๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง
โรคอ้วน เป็นต้น - ผู้ที่เคยรับอุบัติเหตุที่ดวงตามาก่อน
- ผู้ที่ทำงานกลางแจ้งและตาต้องเจอแสง