เช็ค! ความเป็นหนุ่มสาวก่อนวัย...ภาวะที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม

เช็ค! ความเป็นหนุ่มสาวก่อนวัย...ภาวะที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม

          การเปลี่ยนจากวัยเด็กสู่วัยหนุ่มสาวนั้นเป็นเรื่องปกติ แต่หากเกิดความเปลี่ยนแปลงทางสรีระก่อนวัยอันควร อาจเป็นสัญญาณเตือนว่า กำลังเป็นภาวะเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัย เนื่องจากมีฮอร์โมนเพศมากเกินไป พ่อแม่และคนใกล้ตัวจึงควรใส่ใจให้รอบด้าน เพื่อให้สามารถดูแลและแก้ไขปัญหาได้โดยเร็ว ทำให้เด็กเติบโตสมวัย มีพัฒนาการและศักยภาพการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข

ภาวะเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัย...ไม่ใช่เรื่องปกติ

          ภาวะเป็นหนุ่มเป็สภาวะที่เด็กโตเร็วกว่าปกติ (Precocious Puberty) พบได้ทั้งในเด็กหญิงและเด็กชาย โดยจะพบในเด็กหญิงมากกว่าเด็กชาย 8 – 20 เท่า โดยเฉลี่ยเด็กหญิงจะเริ่มเข้าสู่วัยสาวเมื่ออายุประมาณ 8 – 13 ปี ส่วนเด็กชายจะเริ่มเข้าสู่วัยหนุ่มเมื่ออายุประมาณ 9 – 14 ปี ดังนั้นหากเด็กหญิงเริ่มเข้าสู่วัยสาวก่อน 8 ปี และเด็กชายเริ่มเข้าสู่วัยหนุ่มก่อน 9 ปี จะถือว่ามีภาวะ “เป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัยอันควร” พ่อแม่จึงจำเป็นต้องหมั่นสังเกตถึงความผิดปกติที่แอบแฝงอยู่

เป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัย เกิดจากสาเหตุใดบ้าง

• พันธุกรรม พ่อแม่มีประวัติเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัย เช่น พ่อเสียงแตกหนุ่มเร็ว หรือแม่มีประจำเดือนเร็ว ลูกจึงมีโอกาสเป็นภาวะนี้สูง
   
• สิ่งแวดล้อม เด็กที่มีน้ำหนักเกินจากการรับประทานอาหารที่มีแคลอรี่สูง พบว่ามีโอกาสเป็นหนุ่มเป็นสาวเร็วกว่าปกติได้ ส่วนอาหารหรือผลิตภัณฑ์บางประเภทที่มีฮอร์โมนเพศหญิงเป็นส่วนประกอบ เมื่อได้รับในปริมาณที่สูงก็พบว่ามีผลต่อเป็นหนุ่มเป็นสาวเร็วเช่นกัน
   
• พยาธิสภาพในสมอง เกิดจากสมองและต่อมใต้สมองทำงานผิดปกติ เช่น เนื้องอก สมองขาดออกซิเจน การติดเชื้อในสมอง หรือเคยได้รับการฉายรังสี อาจมีการกระตุ้นให้เกิดภาวะเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัยได้ ***แต่พบว่า 90% ของเด็กหญิงที่เป็นสาวเร็วมักไม่มีสาเหตุ ส่วนอีก 10% คือมีพยาธิสภาพ ในขณะที่เด็กชายมักมีพยาธิสภาพถึง 90% ในโรคของต่อมหมวกไต เนื้องอกที่หลั่งฮอร์โมนเพศหรือได้รับฮอร์โมนเพศปนเปื้อนจากสิ่งแวดล้อม ดังนั้นในเด็กชายจึงควรต้องทำการตรวจเพิ่มเติมทุกราย

ผลกระทบกับเด็ก...จากภาวะเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัย

     ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นก่อนวัยและความแตกต่างจากเพื่อนในวัยเดียวกัน อาจทำให้ลูกเราปรับตัวไม่ทัน จึงส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาด้านต่างๆ ตามมาได้ ดังนี้

• ด้านร่างกาย การที่เด็กเข้าสู่การเป็นหนุ่มเป็นสาวเร็วกว่าปกติ จะทำให้เด็กโตเร็วกว่าเพื่อนๆ ในวัยเดียวกัน ฮอร์โมนเพศจะทำให้กระดูกโตเร็วและปิดเร็ว และหยุดการเจริญเติบโต สิ่งที่ตามมา คือ ระยะเวลาการเจริญเติบโตในวัยเด็กจะสั้นลงกว่าเด็กปกติ ทำให้เตี้ยเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ สำหรับเด็กหญิงที่มีประจำเดือนแล้วมีโอกาสเกิดการตั้งครรภ์ ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังไม่ให้มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร
   
• ด้านจิตใจ  สำหรับเด็กหญิงซึ่งมีสรีระภายนอกเป็นสาววัยรุ่น ในขณะที่จิตใจยังคงเป็นเด็ก เกิดความไม่สอดคล้องกันระหว่างวุฒิภาวะทางร่างกายและจิตใจ อาจนำไปสู่การล่อลวงได้ง่าย นอกจากนี้ เด็กอาจจะรู้สึกว่าตัวเองมีรูปร่างแตกต่างไปจากเพื่อนๆ ในวัยเดียวกัน ส่งผลทำให้เกิดการล้อเลียนและมีพฤติกรรมแยกตัว กลายเป็นเด็กมีปัญหาได้ ในบางรายอาจมีปัญหาในเรื่องของการดูแลประจำเดือน ทำให้เด็กไม่อยากไปโรงเรียนตามมาได้ สำหรับเด็กชาย เนื่องจากมีฮอร์โมนเพศชายสูงกว่าปกติ นำไปสู่การมีพฤติกรรมก้าวร้าว อารมณ์รุนแรง และมีอารมณ์ทางเพศสูงกว่าปกติ

สัญญาณบ่งชี้...ที่พ่อแม่ต้องสังเกต

          อย่างที่กล่าวมาข้างต้น ความยากของภาวะนี้คือไม่ได้มีสาเหตุที่ชัดเจนโดยตรง แต่ยังพอมีสัญญาณเตือนบางอย่างที่พ่อแม่อาจสังเกตเองได้ และเมื่อพบว่าลูกรักมีอาการเหล่านี้ แนะนำในรีบพาลูกรักมาพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อขอคำปรึกษาและวินิจฉัยอย่างถูกต้อง

เด็กชายมีอาการเหล่านี้ ก่อนอายุ 9 ปี

• มีอัณฑะขนาดใหญ่ขึ้น
• เริ่มมีขนบริเวณอวัยวะเพศและรักแร้ หรือมีกลิ่นตัวร่วมด้วย
• มีสิว หน้ามัน เสียงแตก
• ส่วนสูงเพิ่มขึ้นเร็วกว่าปกติ

เด็กหญิงมีอาการเหล่านี้ ก่อนอายุ 8 ปี

• มีไตที่เต้านม
• มีประจำเดือน ตกขาว
• เริ่มมีขนบริเวณอวัยวะเพศและรักแร้
• มีสิว หน้ามัน มีกลิ่นตัว
•  สะโพกเริ่มผาย 
• ส่วนสูงเพิ่มขึ้นเร็วกว่าปกติ

ตรวจวินิจฉัย...รู้ผลแม่นยำ

    หากพ่อแม่สงสัยว่าลูกมีภาวะเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัยหรือไม่ ควรรีบพามาพบแพทย์ทันที นอกจากแพทย์จะตรวจร่างกายอย่างละเอียดแล้ว ยังมีการประเมินการเจริญเติบโตของเด็กอีกด้วย ทั้งนี้สามารถตรวจวินิจฉัยด้านอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น

• ด้านร่างกาย ตรวจอายุกระดูกเอกซเรย์กระดูกข้อมือข้างที่ไม่ถนัด เพื่อประเมินว่ามีอายุกระดูกล้ำหน้ากว่าอายุจริงหรือไม่ ซึ่งจะส่งผลกระทบกับความสูงสุดท้ายเมื่อเป็นผู้ใหญ่
• ตรวจเลือดวัดระดับฮอร์โมน  ตรวจวัดระดับฮอร์โมนเพศในร่างกาย เพื่อเฝ้าระวังและทำการรักษา

รักษาได้...พ่อแม่คลายกังวล

    เพราะสาเหตุการเกิดโรคของเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน วิธีรักษาจึงย่อมแตกต่างกัน ฉะนั้นวิธีการรักษาจึงขึ้นอยู่กับดุจพินิจของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เช่น

• รักษาตามสาเหตุของการเกิดโรค
• ฉีดยาชะลอการเป็นหนุ่มสาว เพื่อให้เด็กสามารถเจริญเติบโตตามวัยที่เหมาะสม
   

รับมือแบบรู้ทัน...เมื่อลูกเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัย

   เมื่อพบว่าลูกรักกำลังเผชิญกับภาวะเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัย สิ่งที่พ่อแม่ควรทำ คือ

• ให้ความรู้กับลูกว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นโดยอธิบายคามความเป็นจริง ห้ามโกหกเด็ดขาด!
• ถ้าจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาให้อธิบายถึงผลเสียหากไม่รีบรักษาอย่างทันท่วงที
• หมั่นให้ความรู้เรื่องเพศตามความเหมาะสม เพื่อให้เข้าใจการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย

พ่อแม่...ปกป้องลูกรักได้

     พ่อและแม่สามารถปกป้องลูกให้ไกลจากภาวะเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัยได้ นั่นคือ พยายามควบคุมน้ำหนักของลูกให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตราฐาน
โดยให้ลูกรักรับประทานอาหารถูกหลักโภชนาการ มีสารอาหารครบ 5 หมู่ ในปริมาณที่เหมาะสม และให้ความสำคัญกับการออกกำลังกาย และหากพบสัญญาณบ่งชี้โรค
อย่านิ่งนอนใจควรรีบมาพบกุมารแพทย์ เพื่อขอความปรึกษาและได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

“พ่อแม่ควรใส่ใจอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ลูกรักมีร่างกายที่เจริญเติบโตตามวัยอย่างเหมาะสมและเพิ่มศักยภาพในการใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่”

หากมีคำถามเพิ่มเติมหรือมีความกังวลใดใด โปรดปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและกุมารเวชศาสตร์โรคต่อมไร้ท่อและเมตะบอลิสม
ที่โรงพยาบาลพริ้นซ์ ปากน้ำโพ ศูนย์สุขภาพเด็ก พร้อมให้บริการตรวจรักษาและดูแลสุขภาพเด็กอย่างครบวงจร ให้บริการคครอบคลุม
ทั้งในเรื่องการส่งเสริมสุขภาพ การสร้างภูมิคุ้มกันโรคตามวัยการป้องกันโรค การวินิจฉัย และในคำปรึกษาอย่างครบด้าน
โดยทีมกุมารแพทย์เฉพาะทาง ประจำโรงพยาบาลพริ้นซ์ ปากน้ำโพ

นัดหมายแพทย์ ติดต่อได้ที่ Tal. 056 000 111 ต่อ 500602 โรงพยาบาลพริ้นซ์ ปากน้ำโพ พร้อมให้บริการทุกวันตั้งแต่ 8.00 – 20.00 น.