Cath lab…ห้องปฏิบัติการตรวจและการฉีดสีสวนหลอดเลือดหัวใจ
21 ตุลาคม 2567
Cath lab…ห้องปฏิบัติการตรวจและการฉีดสีสวนหลอดเลือดหัวใจ โรงพยาบาลพริ้นซ์ ปากน้ำโพ
Cardiac Catheterization Lab หรือ Cath lab คืออะไร ?
Cath lab เป็นชื่อเรียกง่ายๆ ของห้องปฏิบัติการตรวจหัวใจและการฉีดสีสวนหลอดเลือดหัวใจ เพื่อตรวจการทำงานของหัวใจ ซึ่งเป็นห้องที่มีประสิทธิภาพในการประมวลภาพของหลอดเลือดหัวใจหรือหลอดเลือดอื่นๆ ในร่างกาย ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดต่างๆ สามารถใช้ตรวจดูความผิดปกติและประเมินความรุนแรงของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบหรือตัน รวมถึงการวัดความดันในห้องหัวใจตำแหน่งต่างๆ หากแพทย์ตรวจพบว่าหลอดเลือดหัวใจตีบ จะทำการขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูนและใส่ขดลวด ถ้าตรวจพบว่ามีโรคพิการของหัวใจมาตั้งแต่กำเนิด เช่น ผนังกั้นห้องหัวใจรั่ว สามารถทำการปิดรูรั่วระหว่างผนังกั้นห้องหัวใจด้วยอุปกรณ์ผ่านทางสายสวนหัวใจได้
การบริการของห้อง Cath lab
- กลุ่มหลอดเลือดหัวใจ
- การสวนหัวใจและการฉีดสีหลอดเลือดหัวใจ (CAG)
- การถ่างขยายหลอดเลือดหัวใจผ่านสายสวนและใส่ขดลวดค้ำยัน โดยทำทั้งรอยโรคตีบทั่วไปและรอยโรคตีบที่มีความซับซ้อน ซึ่งรวมถึงรอยโรคที่ตีบสนิท - กลุ่มศัลยกรรมหัวใจและทรวงอก
- การผ่าตัดทำทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจแบบที่ใช้และไม่ใช้เครื่องปอด-หัวใจเทียม (CABG)
- การผ่าตัดทำทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจในผู้ที่เคยได้รับการผ่าตัดมาแล้ว - กลุ่มระบบกระแสไฟฟ้าหัวใจ
- การตรวจสรีวิทยาไฟฟ้าหัวใจ รวมถึงการรักษาด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูง
- การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า
- การใส่เครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจโดยใช้เครื่อง ICD
- การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจโดยใช้เครื่อง CRT - กลุ่มลิ้นหัวใจ
- การผ่าตัดซ่อมแซมลิ้นหัวใจ / ผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ (Valve Replacement)
- การใช้สายสวนปิดเส้นเลือด Ductus Arteriosus ซึ่งเชื่อมอยู่ระหว่าง Aorta และ Pulmonary Artery
- การเปลี่ยนลิ้นหัวใจโดยไม่ต้องผ่าตัด - กลุ่มหลอดเลือด
- การใช้สายสวนรักษาหลอดเลือดคอที่ไปเลี้ยงสมองตีบ
- การใช้สายสวนรักษาบริเวณหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงไตตีบ
- การใช้สายสวนรักษาบริเวณหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงแขนขาตีบ
- เทคโนโลยีการรักษาโดยใช้เทคนิคสายสวนโดยไม่ต้องผ่าตัด
- เปลี่ยนลิ้นหัวใจโดยไม่ต้องผ่าตัด
- การรักษาผนังกั้นหัวใจห้องบนรั่ว โดยไม่ต้องผ่าตัด
Cath lab ตรวจอะไรบ้าง
- Cath lab สามารถดูตำแหน่งผิดปกติและความรุนแรงของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตันได้ ดูการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ การบีบตัวของหัวใจ การตายของกล้ามเนื้อหัวใจ และการวัดความดันในห้องหัวใจตำแหน่างต่างๆ นอกจากนี้ยังสามารถดูความผิดปกติของลิ้นหัวใจ ดูการหดตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ
- Cath lab สามารถใช้ตรวจวินิจฉัยและรักษาภาวะหลอดเลือดสมองด้วย เช่น โรคหลอดเลือดสมองอุดตัน โรคสมองขาดเลือด เป็นต้น โดยจะทำการตรวจรักษาด้วยการฉีดสีเข้าหลอดเลือดสมอง เพื่อดูความผิดปกติตามจุดต่างๆ ซึ่งเป็นการตรวจที่ให้ผลที่ถูกต้องแม่นยำกว่าการตรวจหลอดเลือดด้วยเครื่องเอกซเรย์
ปฏิเสธได้ยากว่า อันตรายจากโรคหลอดเลือดสมองฉับพลันนั้นมีความรุนแรงถึงขั้นทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต เนื่องจากการใช้ยาละลายลิ่มเลือดยังมีข้อจำกัดสำหรับผู้ป่วยบางราย การรักษาด้วยการใส่สายสวนหลอดเลือดเพื่อนำลิ่มเลือดอุดตันในสมองออก และเปิดหลอดเลือดที่อุดตันให้สามารถนำเลือดไปเลี้ยงสมองได้อีกครั้ง ถือเป็นอีกหนึ่งทางรอดของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองอุดตันนี้ ซึ่งจะช่วยลดภาวะอัมพฤกษ์ อัมพาต และเพิ่มโอกาสรอดชีวิตได้
ใครที่จำเป็นต้องรับการใส่สายสวนรักษาโรคหลอดเลือดสมอง
- ผู้ที่ได้รับการรักษาด้วยการให้ยาละลายลิ่มเลือดทางหลอดเลือดดำแล้ว แต่ยังมีอาการผิดปกติ และหลอดเลือดสมองเส้นใหญ่มีลิ่มเลือดอุดตันอยู่
- ผู้ที่มีข้อห้ามของการให้ยาละลายลิ่มเลือดทางหลอดเลือดดำ หรือมีภาวะการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ และหลอดเลือดสมองเส้นใหญ่มีลิ่มเลือดสมองอุดตันอยู่
- ผู้ที่มีหลอดเลือดสมองเส้นใหญ่อุดตันระยะเฉียบพลัน และมีอาการนานกว่า 5 ชั่วโมง แต่ไม่เกิน 24 ชั่วโมง
- ผู้ป่วยภายหลังการผ่าตัดใหญ่ ซึ่งมีความเสี่ยงต่อเลือดออกผิดปกติ หากได้รับยาละลายลิ่มเลือดทางหลอดเลือดดำ และหลอดเลือดสมองเส้นใหญ่มีลิ่มเลือดอุดตันระยะเฉียบพลัน
- ผู้ป่วยที่ไม่มีตำแหน่งที่เส้นเลือดอุดตันคดเคี้ยวมากจนเกินไป
การเปลี่ยนแปลงหลังได้รับการใส่สายสวนหลอดเลือดสมอง
ความผิดปกติทางระบบประสาทจะกลับมาเป็นปกติหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ระยะเวลาตั้งแต่มีอาการจนได้รับการรักษา ขนาดของตำแหน่งเนื้อสมองที่ขาดเลือดแต่ยังไม่ตาย ขนาดพื้นที่ของเนื้อสมองที่เสียหาย อายุของผู้ป่วย ภาวะที่มีหลอดเลือดข้างเคียงมาช่วยเลี้ยงบริเวณเนื้อสมองที่ขาดเลือด โรคประจำตัวของผู้ป่วย เป็นต้น
ข้อดีของการรักษาโรคหลอดเลือดสมองด้วยวิธีการใส่สายสวน
- ลดภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วยที่มีลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดสมองเส้นใหญ่
- ลดอัตราความพิการ และอัตราการเสียชีวิต
- ลดความเสี่ยงจากการผ่าตัดด้วยวิธีการแบบเปิดกะโหลก
เมื่อใดจึงควรมาตรวจ Cath lab
เมื่อเกิดภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบตัน สาเหตุเกิดจากเลือดไปเลี้ยงที่หัวใจไม่เพียงพอ ส่งผลให้ผู้ป่วยเกิดอาการแน่นหน้าอกหรือเจ็บบริเวณหน้าอกมากกว่า 5 นาที และเหนื่อยง่าย แต่การตรวจ Cath lab จะเป็นขั้นตอนสุดท้ายของคนที่เป็นโรคหัวใจ เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตอย่างฉับพลันจากโรคหัวใจ
วิธีการสวนหัวใจ (Cardiac Catheterization) คืออะไร?
วิธีการสวนหัวใจ (Cardiac Catheterization) คือ การสอดสายขนาดเล็กที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 มิลลิเมตร สวนผ่านเข้าไปทางหลอดเลือดแดงที่บริเวณปลายขาหนีบหรือข้อมือ จนปลายสายเข้าไปถึงบริเวณหลอดเลือดหัวใจ หลังจากนั้นจะทำการฉีดสารทึบรังสีเข้าไปในหลอดเลือดหัวใจและทำการเอกซเรย์ด้วยความเร็วสูง ทำการบันทึกภาพของหลอดเลือดหัวใจแต่ละเส้นและนำข้อมูลที่ถูกบันทึกไว้ไปใช้ในการวินิจฉัยโรคต่อไป ในการสวนหัวใจแต่ละครั้งจะใช้ระยะเวลาประมาณ 20 นาที ซึ่งผู้ป่วยสามารถมั่นใจได้ว่าปลอดภัย เพราะดำเนินการโดยแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจโดยเฉพาะ สำหรับข้อดีของการตรวจวินิจฉัยโรคด้วยวิธีนี้ คือ ไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ทำให้คนไข้เจ็บตัวน้อย สามารถฟื้นตัวได้เร็วและกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ
เมื่อใด...ถึงควรจะทำการสวนหัวใจ
สำหรับผู้ป่วยที่แพทย์วินิจฉัยและจะพิจารณาให้สวนหัวใจ จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
- กลุ่มที่ 1 ผู้ป่วยที่มีอาการแน่นหน้าอกฉับพลัน หรือสงสัยว่ามีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดฉับพลัน โดยจะทำการวินิจฉัยจากอาการของผู้ป่วย หากมีอาการภายใน 1 เดือน ร่วมกับมีคลื่นไฟฟ้าหัวใจผิดปกติ อัลตราซาวด์หัวใจแล้วสงสัยว่ามีภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบฉับพลัน ต้องทำการสวนหัวใจภายใน 24 – 48 ชั่วโมง หรือเร็วกว่าขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์
-
กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยที่มีประวัติแน่นหน้าอกมานานหรือมีอาการเหนื่อยไม่ทราบสาเหตุ มีอาการใจสั่น หน้ามืด ผู้ป่วยกลุ่มนี้แพทย์อาจจะพิจารณาวินิจฉัยเบื้องต้นด้วยการวิ่งสายพาน มีเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ก่อนหรืออัลตราซาวด์หัวใจ แล้วพบความผิดปกติ แพทย์ก็จะนัดให้เข้ารับการสวนหลอดเลือดหัวใจต่อไป
“ห้องปฏิบัติการตรวจและการฉีดสีสวนหลอดเลือดหัวใจ (New Cath lab)
โรงพยาบาลพริ้นซ์ ปากน้ำโพ พร้อมเปิดให้บริการแก่ผู้รับบริการทุกท่าน เร็วๆนี้”
ศูนย์การรักษาที่เกี่ยวข้อง
แผนกโรคหัวใจและหลอดเลือด
สถานที่
ชั้น1
เวลาทำการ
จ,พฤ,ศ : 17.00-20.00 ,อ,พ : 17.00-19.00 ส,อา : 08.00-17.00
เบอร์ติดต่อ
(056) 000 111 ต่อ 510211